⚠️ BETA 1. เว็บไซต์นี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ผู้ขายต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น เข้าสู่ระบบเพื่อสมัคร

10 เคล็ดลับมิกซ์แฟชั่นวินเทจอย่างมือโปร

เคยออกไปช้อปปิ้งแล้วรู้สึกผิดหวังกับเสื้อผ้าไหม? หรือบางครั้งลุคของคุณก็ดูจืดชืดจนกลืนไปกับฉากหลัง? ถ้าใช่ การเพิ่มกลิ่นอายวินเทจเข้าไปในตู้เสื้อผ้า อาจเป็นการเปลี่ยนลุคที่ใช่สำหรับคุณ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเหล่าแฟชั่นนิสต้าจากยุคก่อนมีสไตล์ที่น่าทึ่ง ด้วยการหยิบแรงบันดาลใจจากอดีต คุณกำลังจะสร้างความประทับใจที่โดดเด่น หากคุณพร้อมที่จะเรียนรู้ศิลปะการแต่งตัววินเทจและทำให้ลุคของคุณเฉิดฉาย ลองดูเคล็ดลับด้านล่างนี้ได้เลย

ทำความเข้าใจแฟชั่นวินเทจ

คำว่า “วินเทจ” คืออีกชื่อหนึ่งของแฟชั่นสุดคลาสสิก ลองนึกถึงกระโปรงพุดเดิ้ลยุค 1950s นั่นคือตัวอย่างแฟชั่นวินเทจที่ชัดเจนที่สุด จะเห็นได้ว่าหลายเทรนด์วนกลับมาเรื่อย ๆ แฟชั่นจริง ๆ แล้วไม่เคยล้าสมัย ทุกวันนี้แฟชั่นคือการแสดงความเป็นตัวเอง การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าวินเทจจึงไม่ใช่แค่เรื่องของสไตล์ แต่ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าแต่งเวอร์เกินไปก็อาจดูเหมือนกำลังเตรียมตัวไปงานฮาโลวีนได้ การโดดเด่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องทำอย่างมีสไตล์ และนี่คือวิธีเติมเสน่ห์ให้ลุควินเทจของคุณ

1. ผสมผสานวินเทจกับแฟชั่นสมัยใหม่

สมมติว่าคุณชื่นชอบสไตล์ยุค 70s และอยากใส่กางเกงขาบาน นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย และคุณสามารถใส่ออกมาได้ดูดี แต่ถ้าไม่อยากให้ลุคดูเหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์ That 70’s Show ลองจับกางเกงขาบานคู่กับเสื้อครอปหรือแจ็กเก็ตสุดเก๋ วิธีนี้จะช่วยให้ลุคของคุณมีกลิ่นอายเรโทรแบบมีสไตล์ โดยไม่ดูเป็นตัวละครแฟนซีเกินไป

2. เติมกลิ่นอายอดีตอย่างมีชั้นเชิง

การแต่งตัววินเทจไม่จำเป็นต้องไปช้อปที่ร้านมือสองเสมอไป แค่ใส่เสื้อยืดลายกราฟิกสไตล์เรโทรก็เพียงพอแล้ว เช่น เสื้อยืด Dolly Parton ก็ถือเป็นวินเทจได้ทันทีเมื่อจับคู่กับลุคสมัยใหม่

3. แต่งหน้าสไตล์โมเดิร์นเพื่อบาลานซ์ลุค

ลองนึกภาพว่าคุณซื้อเสื้อวินเทจตัวเด่นที่มีแผ่นเสริมไหล่มา ใคร ๆ อาจมองว่าแผ่นเสริมไหล่ไม่ได้อินเทรนด์แล้ว แต่ความมั่นใจของคุณสามารถทำให้มันดูเก๋ได้ และเพื่อไม่ให้ลุคดูเวอร์เกินไป คุณสามารถลดความดราม่าด้วยการแต่งหน้าแบบโมเดิร์น ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเหมือนยุคนั้น เลือกแต่งตาแบบสโมกกี้อายหรือกรีดตาแบบแคทอาย เพื่อผสานกลิ่นอายสองยุคเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

4. เลือกเสื้อผ้าเรโทรที่มีความทันสมัยแฝงอยู่

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เทรนด์เก่า ๆ มักจะวนกลับมาอินอีกครั้ง และเมื่อถึงช่วงเวลานั้น ก็ถือเป็นโอกาสทองในการหยิบแฟชั่นเรโทรมาใส่โดยไม่ต้องละทิ้งความทันสมัย อย่าอายที่จะโดดเด่น — ใส่ให้สุด อย่ากลัวลงทุนกับสไตล์ของตัวเอง!

5. ผสมผสานสไตล์จากหลากหลายยุคเข้าด้วยกัน

การแต่งตัววินเทจควรเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ ใครว่าคุณต้องแต่งตามยุคเดียวเท่านั้น? ถ้าคุณเจออะไรจากยุค 60s แล้วคิดว่ามันเข้ากันได้ดีกับไอเทมยุค 90s ก็จับมามิกซ์ได้เลย อย่ากลัวที่จะสร้างสไตล์ที่เป็นตัวเอง

6. เติมแอ็กเซสเซอรี่สมัยใหม่เข้าไปในลุควินเทจ

การปรับลุควินเทจให้น่าสนใจที่สุดก็คือการเติมเครื่องประดับสมัยใหม่เข้าไป การผสมความหรูหราของวินเทจกับแฟชั่นทันสมัยจะสร้างลุคที่เป็นเอกลักษณ์ ลองจับรองเท้า แว่นตา หรือกระเป๋าสไตล์โมเดิร์นมาแมตช์กับเสื้อผ้าวินเทจ เพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเป็นตัวคุณ เช่น การใส่ต่างหูห่วงคู่กับหมวกเบเร่ต์ก็เข้ากันอย่างลงตัว

7. ทำผมทรงโมเดิร์น

ลุคยุค 60s ไม่จำเป็นต้องทำผมทรงรวงผึ้งเป๊ะ ๆ เสมอไป คุณสามารถเลือกผมยาวตรง บ๊อบสั้น หรือทำลอนเบา ๆ ด้วยเครื่องม้วนไฟฟ้าได้ วิธีนี้ช่วยให้การแต่งตัววินเทจดูกลมกลืนกับความทันสมัยมากขึ้น

8. อย่ายึดติดกับแบรนด์

ในโลกแฟชั่นปัจจุบัน แบรนด์หรูไม่ได้สำคัญเหมือนเมื่อก่อน ทุกคนหันมารักการแต่งตัวมือสองและสร้างสไตล์ที่เป็นตัวเองมากขึ้น โฟกัสที่การหาไอเทมวินเทจที่ใช่สำหรับคุณ แทนที่จะเสียเวลาไล่ตามแบรนด์ดัง ลองไปค้นของตามร้านมือสองราคาน่ารัก ๆ คุณอาจเจอของเด็ดที่แบรนด์เนมยังให้ไม่ได้เลยก็ได้

9. ใส่ความมั่นใจเข้าไปเต็มร้อย

การแต่งวินเทจต้องใช้ความมั่นใจในตัวเอง ต้องมีเสียงในใจที่บอกว่า “ฉันรู้ว่าฉันใส่อะไรอยู่ และมันเจ๋งมาก!” แล้วเดินออกไปแบบไม่แคร์ Vintage คือแฟชั่นของคนที่กล้าท้าทายกฎการแต่งตัวแบบเดิม ๆ

10. เลือกใส่ในแบบที่คุณชอบ

อย่าลืมว่าการแต่งวินเทจควรเป็นเรื่องสนุก! แม้บทความนี้จะมีเคล็ดลับมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว คุณสามารถเลือกแต่งตามใจตัวเองได้เต็มที่ ต่อให้ลุคจะดูเหมือนชุดแฟนซีก็ไม่เป็นไร ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกดี

วิธีแต่งวินเทจ: เปลี่ยนสไตล์ให้ไม่ซ้ำใคร

น่าสนใจมากที่ไม่ใช่ทุกคนจะกล้าลองแฟชั่นวินเทจ เพราะมันต้องใช้ความมั่นใจไม่น้อย แต่ถ้าคุณใช้ “ความมั่นใจ” เป็นเครื่องประดับหลัก ไม่ว่าคุณจะใส่อะไรก็ดูดีแน่นอน!
หากคุณชอบคู่มือการแต่งวินเทจนี้ อย่าลืมแวะอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ในบล็อกของเรา เพราะเรามีบทความครอบคลุมตั้งแต่แฟชั่น ความงาม ไปจนถึงสุขภาพและไลฟ์สไตล์อีกมากมาย

About the author

Facebook
Twitter
LinkedIn
X
Email